หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554

หมอดำ ทำนายทายทัก: ราศีที่ 13

หมอดำ ทำนายทายทัก: ราศีที่ 13: "ราศีที่ 13 กำลังจะกลับมา นักดาราศาสตร์เสนอเพิ่มราศีที่ 13 เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ปาร์ค ค..."

เตรียมรับพลังวันสงกรานต์ 2554 กันค่ะ

เตรียมรับพลังวันสงกรานต์
ในแต่ละปีจะมีช่องของการเปลี่ยนแปลงพลังงานในร่างกายสัมพันธ์กับพลังงานภายนอก โดยพระอาทิตย์ย้ายราศีจากมีนเข้าสู่ราศีเมษ คณาจารย์ผู้ชาญฉลาดจึงได้คำนวณเวลา พร้อมกับแนะนำให้บุคคลทั้งหลายปฏิบัติตนเพื่อปรับพลังงานภายในให้มีกำลัง เตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในปีต่อไป ให้ประสบกับความวัฒนาถาวรและรอดพ้นจากโทษภัยที่จะเกิดขึ้นให้บรรเทาเบาบางจนกระทั่งหมดสิ้นไป ดังนี้
1.     วันที่ 14 เมษายน 2554   เวลา 11 นาฬิกา 33 นาที 36 วินาที ตรงกับวันพฤหัส ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 7 เหนือ (เดือน 5ไทย) เป็นวันสังขารล่อง(วันตาย)   ในทางวิทยาศาสตร์คือการเกิดของเซล (ชีวิต) ในร่างกายจะน้อยกว่าการเสื่อมของเซลล์ ปฏิกิริยาชีวิตจะหยุดชั่วคราว ซึ่งโดยปกติ ทางพุทธศาสนาจะกล่าวว่ามีการเกิดดับของสังขารร่างกายสืบเนื่องกันไป(สันสติ)  ดังนั้นในปีนี้ตามคัมภีร์บอกไว้ว่า ฝนและความแห้งแล้ง จะเสมอกัน อันตรายจะบังเกิดกับ เจ้าพระยา ขุนนาง และคนทั้งหลาย จะเกิดความเดือดร้อนข้าวของจะแพง ควรสืบชะตาบ้าน ชะตาเมือง วิธีปฏิบัติ ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ตรงสี่แยก เพื่ออาบน้ำดำหัว
โดยปีนี้ ศรี พลังดีอยู่ที่คาง ให้ใช้น้ำอบน้ำหอมลูบหรือเช็ด ส่วนพลังที่ไม่ดี คือกาลกิณีอยู่ที่คิ้ว จังไรอยู่ที่ต้นคอ(ท้ายทอย) ให้เอาน้ำขมิ้นส้มป่อย(ภาคกลางใช้มะกรูด) เช็ดแล้วขว้างทิ้ง
เวลาอาบน้ำดำหัวว่า คาถา “โอมสิริมา มหาสิริมา เตชะยัสสะลาภา อายุ วัณณา ภะวันตุเม”  เสร็จแล้วนุ่งผ้าใหม่ สตรีทัดดอกบัวที่หู หรือนำดอกบัวบูชาพระ เหน็บตรงประตูบ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคล

2.     วันที่ 15 เมษายน 2554 (วันเน่า) (วันเนาว์ภาคกลาง) เมื่อตายแล้วภายในเกิดเน่าเหม็นเปลี่ยนแปลง วันนี้ห้ามด่า แช่ง พูดคำหยาบ ถือศีล 5 ทำความสะอาดบ้านเรือน กวาดวัด ทำความสะอาดพระเจดีย์ ต้นโพธิ์(ทางเหนือใช้ไม้ค้ำต้นโพธิ์ ภาคกลางอาจห่มผ้าต้นโพธิ์ก็ได้ สรงน้ำพระ ขนทรายเข้าวัด (ชำระหนี้สงฆ์) ก่อพระเจดีย์ทราย อธิษฐานถวายพระพุทธเจ้า ขอบุญจลบังเกิดเฉกเช่นเมล็ดทราย เป็นการสะเดาะเคราะห์

3.      วันที่ 16 เมษายน 2554 (วันมหาสงกรานต์) (พญาวัน) (วันเถลิงศก) เป็นวันเปลี่ยนศักราช ถือว่าเกิดใหม่ตรงกับเวลา 17 นาฬิกา 31 นาที 12 วินาที  ปีนี้นาครักษาปี แร้งรักษาเดือน กระต่ายรักษาป่าจระเข้รักษาน้ำ พระเจ้า(พระพุทธเจ้า)เป็นใหญ่แก่คนทั้งหลาย เทวกรวัตติ เทพบุตรรักษาอากาศ กวาลมังคละเทวบุตรรักษาแผ่นดิน จระเข้เป็นใหญ่สัตว์ 4 เท้า กาเป็นใหญ่สัตว์ 2 เท้า ไม้มะม่วงเป็นใหญ่ในไม้จริง ไม้หก (ไม้ไผ่ป่า)เป็นใหญ่ในไม้กลวง หญ้าคาเป็นใหญ่ในหญ้าทั้งหลาย ดอกบัวเป็นพญาดอก ขวัญข้าว(พลัง)อยู่ไม้กวาว(ทองกวาว) ไม้ไผ่เป็นใหญ่ในไม้กลวง ผีเสื้อ(ภพภูมิ)อยู่ที่ไม้มูก(ตีนเป็ด)  

เวลาทำบุญให้อุทิศบุญกุศลไปให้ท่านเทวดาประจำสิ่งเหล่านี้ หรือทำกระทงใส่ดอกหรือใบ หรือรูปภาพของสิ่งที่เอ่ยมาข้างต้น  เขียนชื่อของท่านเหล่านี้ใส่ในกระทง นำไปบูชาพระ(พระเจ้า) เพื่อความเป็นสิริมงคล

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้ง5 ภายใน 1 วัน เพื่อนำมาผสมสร้างพระเจ้าทันใจ

 เริ่มจากจ.เพชรบุรีก่อนค่ะที่วัดท่าไชยศิริ


ต้องเดินออกมาจากบริเวณวัดสักหน่อยค่ะ

ท่าน้ำได้กุมารน้อยมาตักน้ำให้ค่ะ



กุมารมิตรเหมือนเทพจัดมาให้ ตอนแรกถึงวัดแต่หาท่าน้ำไม่เจอ แถมไม่พบใครอีกในวัด นอกจากกุมารมิตร ซึ่งขันอาสาพามาท่าน้ำ อายุเพียง 6 ขวบ แต่อยู่ป. 2 แถมยังสอนพี่สาวว่ายน้ำ กับขี่จักรยานด้วยนะ ขันอาสาลงน้ำไปเชิญน้ำใส่ขวดให้ด้วย ถ้าตามธรรมเนียมพราหม์ต้องผู้เป็นพรหมจรรย์เชิญจะศักดิ์สิทธิ์มาก  งานนี้พรหมจรรย์แน่นอน ถึงบอกว่าเหมือนเทพจัดมาให้ค่ะ

กุมารกับกุมารีช่วยกันอัญเชิญน้ำ

แก่นจริงๆจ่ะ

คุณพี่ปื๊ดเป็นปลื้ม


ทีมงาน จอมทึ่งกุมารมิตรมากค่ะ



ศาลเจ้าพ่อที่ดูแลสถานที่


วัดดาวดึงส์ จ.สมุทรสงครามค่ะ



สำเร็จไปอีก 1

ลุยต่อระยะทางอีกยาวไกล


วัดสนามไชย จ.อ่างทอง

งานนี้ต้องจอมค่ะ


เตรียมลุยต่อ

ป้ายบอกประทับใจมากค่ะ
บ่อน้ำพระอาจาย์ นครนายก ถ่ายได้แค่นี้ค่ะ เพราะมืดและน่ากลัวค่ะ ที่นี่เฮี้ยนสุดค่ะ เสียดายถ่ายที่ท่าสระบุรีไม่ได้ เพราะมืดอีกเหมือนกัน แต่ก็น่ากลัวไม่น้อยกว่าบ่อพระอาจารย์ค่ะ

น้ำศักดิ์สิทธ์ ทั้ง 5 อัญเชิญมาผสมผงปูนสร้างพระทันใจ

แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์สำคัญทั่วทิศ 
เกร็ดความรู้ที่สำคัญ 
การประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนเคารพเลื่อมใส หรือจากแหล่งน้ำที่สำคัญของจังหวัดหรือจากแหล่งน้ำที่เคยใช้ประ กอบพิธีเสกน้ำศักดิ์สิทธิ์ตามที่จังหวัดแจ้งไว้กับกระทรวงมหาด ไทย ในวันนี้จะมีพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์พร้อมกันที่ส่วนกลาง ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

แหล่งน้ำสำคัญเป็นสิริมงคลและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ ได้รับความเคารพเลื่อมใสมา แต่ครั้งโบราณกาลตามที่มีการกล่าวถึงกันมีอยู่ด้วยกันหลายสถานที่ อย่างในสมัยกรุงศรีอยุธยาน้ำสรงมูรธาภิเษกมีการใช้น้ำจาก สระเกษ สระแก้ว สระคงคา สระยมนา ในแขวงเมืองสุพรรณบุรี

ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์นอกจากใช้น้ำจากสระข้างต้นยังมีการใช้น้ำในแม่น้ำสำคัญอีก 5 สาย ได้แก่ แม่น้ำบางปะกง ตักที่บึงพระอาจารย์ แขวงเมืองนครนายก แม่น้ำป่าสัก ตักที่ตำบลท่าราบ แขวงเมืองสระบุรี แม่น้ำเจ้าพระยา ตักที่ตำบลบางแก้ว แขวงเมืองอ่างทอง แม่น้ำราชบุรี ตักที่ตำบลดาวดึงส์ แขวงเมืองสมุทรสงครามและ แม่น้ำเพชร บุรี ตักที่ตำบลท่าไชย แขวงเมืองเพชรบุรี ซึ่งน้ำในแม่น้ำทั้งหมดนี้เรียกชื่อว่า เบญจสุท ธคงคา โดยอนุโลมตามปัญจ มหานทีในชมพูทวีปซึ่งกล่าวถึงแหล่งน้ำสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เป็นต้น

ขณะที่สังคมไทยผูกพันใกล้ชิดกับสายน้ำและจากแหล่งน้ำสำคัญ ศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละจังหวัดซึ่งมีความเป็นมามีความหมายความสำคัญชวนศึกษา อย่างเช่นที่ สระสองห้อง แหล่งน้ำในพิธีพลีกรรมตักน้ำของ จ.พิษณุโลก ซึ่งสถานที่นี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ผู้รู้เล่าว่า สระสองห้องสันนิษ ฐานว่าเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์มาแต่ครั้งสมัยสุโขทัยหรืออยุธยาซึ่งเสด็จมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามที่ปรากฏในพระราชพงศาวดาร เป็นสถานที่ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชใช้เตรียมไพร่พลชายฉกรรจ์ชาวพิษณุโลกและใกล้เคียงพร้อมไว้เป็นกำลังสำคัญ

สระสองห้อง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันมาแต่เดิมว่า หนองสองห้อง ตั้งอยู่ทิศตะวันตกของพระราชวังจันทน์ เป็นสระน้ำโบราณรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงกลางสระมีโคกเป็นเกาะทำให้มองดูคล้ายสระน้ำสองสระ จึงได้ชื่อว่า สระสองห้อง สันนิษ ฐานกันว่าสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยตรงกลางสระเป็นพระที่นั่งเย็น สำหรับประทับพักผ่อนพระอิริยาบถ ณ พระ ราชวังจันทน์ ซึ่งสระสองห้องพระราชวังจันทน์แห่งนี้เป็นแหล่งน้ำสำคัญใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์หลายครั้ง อาทิ พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ 5 ธันวาคม 2530 พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 ฯลฯ

ส่วนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พิธีพลีกรรมตักน้ำและเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อ ทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา จังหวัดเพชรบูรณ์ มีแหล่งน้ำสำคัญที่นำมาประ กอบพิธี 4 แห่ง ได้แก่ แหล่งน้ำที่มาจากดินสูงสุดของ น้ำตกตาดหมอก ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.เมือง ซึ่งเป็นเสมือนธาตุดิน แหล่ง น้ำที่มาจาก แม่น้ำป่าสัก บริ เวณหน้าวัดโบสถ์ชนะมาร ซึ่งเป็นจุดที่ประกอบพิธีอุ้มพระ ดำน้ำ ที่ต.สะเดียง อ.เมือง ซึ่งเป็นเสมือนธาตุน้ำ แหล่งน้ำที่มาจากยอดเขาสูง ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า ซึ่งเป็นเสมือนธาตุลม และแหล่งน้ำที่มาจาก บริเวณ น้ำพุร้อนใต้ดิน อ.วิเชียร บุรี ซึ่งเป็นเสมือนธาตุไฟ และในงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการ จังหวัดเป็นประธานในพิธี และได้ประกอบพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ และที่ผ่านมาได้ประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์ สิทธิ์ ณ พระอุโบสถวัดมหาธาตุวัดสำคัญของทางจังหวัด

นอกจากแหล่งน้ำข้างต้น ทั่วทิศทุกภูมิภาคตามที่มีราย งานอย่าง จ.ระนอง พิธีพลี กรรมตักน้ำจากบ่อน้ำพุร้อน บริเวณสวนรักษะวารินซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญมีชื่อกล่าวขาน ขณะที่จ.ภูเก็ต ที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอเมือง นอกจากนี้ที่จังหวัดมหาสารคามใช้น้ำจากบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือหนองนาดูน ส่วนพิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ จ.ตราด ได้ดำเนินการ ณ น้ำตกธารมะยม อ.เกาะช้างและในพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ประกอบพิธี ณ วัดโยธานิมิต พระอารามหลวงเก่าแก่มีความหมายความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เล่าเล่นๆเรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับวัดทุ่งสว่างดอนกลาง ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธ์

           วัดแห่งนี้ เทวดาท่านแรงมากนะค่ะ ท่านมาบอกผู้เขียนเมื่อต้นปี 2553 ว่าให้สร้างพระองค์ใหญ่ เป็นปางห้ามสมุทร แบบที่มีอยู่ในวัดนี่แหละ และต้องสร้างเป็นแบบพระทันใจ คือให้สำเร็จภายใน 1 วัน ตอนแรก ผู้เขียนก็หนักใจมาก เพราะเท่าที่ทราบมา ยังไม่เคยมีใครสร้างพระทันใจปางยืนมาก่อน และที่สำคัญสูงตั้ง 5 เมตร แล้วจะหาช่างที่ไหนมาสร้าง  แล้วท่านยังบอกอีกว่า แล้วจะมีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ผู้หญิงมาเป็นประธาน เรื่องนี้ยิ่งไม่น่าเป็นไปได้ใหญ่เลย แต่ผู้เขียนก็ตัดสินใจว่าจะสร้างล่ะ แล้วแต่เทวดาท่านจะจัดสันมาก็แล้วกัน ผู้เขียนได้ทูลเชิญ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ซึ่งท่านทรงมีพระกรุณาต่อผู้เขียนมากค่ะ ทรงถามว่าสร้างเพื่ออะไร ผู้เขียนตอบว่า ปางนี้สร้างเพื่อความสงบสุขของคนในชาติ เพราะตามประวัติ พระปางห้ามสมุทร พระพุทธเจ้าท่านทรงห้ามพระญาติไม่ให้ทำสงครามเพื่อแย่งน้ำกัน และหลังจากพระญาติได้ฟังธรรมแล้ว ก็สมัครใจบวชและสำเร็จเป็นพระอรหันต์ อีก 500 รูป และจะถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วย ท่านก็ทรงตรัสว่าท่านจะเสด็จเป็นการส่วนพระองค์ ถือว่าเป็นพระกรุณาต่อประชาชนอย่างมากค่ะ
               ไว้เล่าใหม่พรุ่งนี้นะค่ะ

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สร้างพระทันใจ วัดทุ่งสว่างดอนกลาง ต.หัวนาคำ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธ์

กองงานกำลังสร้างพลับพลาพิธีเตรียม รับเสด็จ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา

วิหารสร้างมา4ปีแล้วค่ะ ยังไม่เรียบร้อย

จอมกับโก๊ะ ปัดทองพระนาคปรกหินทรายขัด

พระพุทธวัชรญาน นาคอภิบาลรักขา มนุสเทวา   
อนุโมทันตุ  (พระนาคปรก)

บอกกล่าวรุกขเทวดาประจำวัด

เตรียมงานประชาสัมพันธ์ รับบวชชีพราหม์

กำลังเริ่มบรวงสรวงก่อนปั้นพระพุทธชัยวัฒน์
          นววัชชสยามมินทร์ จักรีนฤบดินทร์ จักวัติมหาราชา (หลวงพ่อทันใจ)


อ.ศุภรัตน์กำลังเตรียมงานคร้า

ญาติโยมพร้อม

ชีพราหม์ปฏิบัติกันทั้งคืน ร่วมสวดมนต์สร้างพระ

พี่อ่างอธิฐานน้านนาน ขอให้สมหวังสาธุ

พี่เอกรับหัวใจพระด้วยค่ะ

สาธุ

พี่โน่คนล้อมตรึม

สาธุ

จิตศรัทธาจาก กทม. หน้าตาคุ้นๆทั้งนั้น

คอแห้งหะ

พี่เหมียว พี่หมู ม่อน พี่อ่าง พี่เอก พี่นีโน่ พี่อ้อย

เตรียมปูนคร้า









มุ่งมั่นมากค่ะ 



เทวดามากันมากมายค่ะ


สาธุ


รำบรวงสรวงตอนเช้าค่ะ

พระธาตุที่บรรจุหัวใจพระทันใจค่ะ



ทีมปีนป่ายทดลองรอกชัก

ท่านสูง 5.12 เมตร


ตรวจงาน

ดูซิถูกต้องรึเปล่า



มณฑปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ 

พลับพลา 







เตรียมท่าสำหรับทรงปล่อยปลา และทรงลอยกระทง


รอรับเสด็จ ริมบึงน้ำโบราณ